คุณแม่ตั้งครรภ์ที่เป็นคนผิวแห้ง แพ้ง่ายอยู่แล้ว จะมีอาการผิวแห้ง แตกลอกเป็นขุย จนเกิดอาการคันได้ง่าย ยิ่งถ้าคุณดื่มน้ำน้อย ผิวจะยิ่งแห้งมาก ควรดื่มน้ำมาก ๆ รับประทานผัก - ผลไม้เป็นประจำ
ผิวแห้ง
คุณแม่ตั้งครรภ์ที่เป็นคนผิวแห้ง แพ้ง่ายอยู่แล้ว จะมีอาการผิวแห้ง แตกลอกเป็นขุย จนเกิดอาการคันได้ง่าย ยิ่งถ้าคุณดื่มน้ำน้อย และอยู่ในห้องปรับอากาศนานๆ ผิวจะยิ่งแห้งมาก ควรดื่มน้ำมากๆ รับประทานผัก - ผลไม้เป็นประจำ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ถ้าต้องอยู่ในห้องปรับอากาศนานๆ ควรเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายด้วยการสวมใส่เสื้อกันหนาว ถ้าผิวแห้งมากควรเลือกใช้สบู่อ่อนๆ ทาครีมเพิ่มความชุ่มชื้น การอาบน้ำเย็นหรือแช่ตัวในน้ำเกลือจะช่วยลดอาการคันลงได้
หลังอาบน้ำควรทาโลชั่น หรือครีมบำรุงผิวทุกครั้ง ปัจจุบันมีครีมบำรุงผิวครรภ์ จำหน่ายตามท้องตลาดหลากหลายยี่ห้อ ซึ่งก็แล้วแต่ว่าคุณแม่จะเลือกชนิดไหน อาจเป็นชนิดเดียวกับที่เคยใช้ก่อนตั้งครรภ์ก็ได้ แต่ถ้าไม่แน่ใจว่าครีมที่ใช้มีส่วนผสมที่ปลอดภัยหรือเปล่า ก็สามารถใช้เบบี้ออยล์หรือน้ำมันมะกอกได้ค่ะ
ผิวแตกลาย
การบำรุงผิวนั้นไม่ใช่เพียงแค่บริเวณที่เกิดอาการผิวแห้งและคันเท่านั้นนะคะ สะโพก แขน ขา ก็ต้องการการดูแลเป็นพิเศษด้วยค่ะ โดยเฉพาะต้นแขน ต้นขา ซึ่งขยายออกเรื่อยๆ หากคุณแม่ละเลยจนผิวแตกลายแล้ว อาจมีอาการคันตามมาในช่วงใกล้คลอดได้ ช่วงที่อากาศเย็นเช่นนี้ ควรทาโลชั่นหรือเบเบี้ออยล์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวส่วนต่าง ๆ เหล่านี้ด้วยค่ะ
เรื่องท้องลายนี้เป็นเรื่องที่ยังไม่มีคำตอบว่าทำไมบางคนท้องลาย บางคนไม่ลาย บางคนมีอาการคันด้วย มีจุดสีน้ำตาล บางคนมีรอยแตกเป็นสีชมพู - แดง แต่ที่มักเป็นเหมือนๆ กันคือ จะมีเส้นรอยสีน้ำตาล จากสะดือลงไปท้องน้อย เส้นที่ว่านี้เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีในระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งหลังคลอดเจ้าเส้นนี้จะหายไปได้เอง
ความหมองคล้ำ
นอกจากเรื่องผิวแห้งในช่วงหน้าหนาว ในช่วงท้าย ๆ ของการตั้งครรภ์ คุณแม่จะสังเกตได้ว่า สีผิวคล้ำขึ้น หน้ามัน อาจมีฝ้า กระ ขึ้นเยอะเกินกว่าปกติ แถมบางคนจะพบว่าผิวบริเวณรักแร้ - ขาหนีบ คล้ำขึ้น ทั้งหมดนี้เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายระหว่างตั้งครรภ์ ทำให้เม็ดสีของร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงไปและไวต่อแสงแดดมากขึ้น ใบหน้าและสีผิวจึงดูคล้ำลงได้
สำหรับผิวหน้า เรื่องการดูแลผิวหน้าโดยทั่วๆ ไป คุณแม่สามารถทำตามอย่างที่เคยทำก่อนตั้งครรภ์ได้ แต่หากหนาวนี้ผิวหน้าคุณแห้งมาก ควรเพิ่มความชุ่มชื้นด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ค่ะ หากต้องการทดสอบว่ามอยซ์เจอร์ไรเซอร์ ที่จะใช้นั้นเหมาะกับผิวคุณในยามนี้หรือไม่ ก็ทำได้ง่าย ๆ ลองทามอยเจอร์ไรเซอร์ทั่วผิวหน้าทิ้งไว้แล้วสังเกตว่าผิวหน้าแห้งเร็วแค่ไหน มอยซ์เจอร์ไรเซอร์ที่ดีควรให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหน้าได้ประมาณ 2 - 4 ชั่วโมง ถ้าใช้แล้วรู้สึกว่าผิวหน้าแห้งเร็วเกินไปก็ควรเปลี่ยนชนิดของมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ที่ใช้ค่ะ
สิว
การตั้งครรภ์กระตุ้นให้เกิดสิว หรืออาจทำให้สิวที่เป็นอยู่แย่ลงไปอีก เหตุผลก็คือ ระดับฮอร์โมนแอนโดรเจนที่สูงขึ้นอย่างมาก กระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน จนอาจทำให้รูขุมขนอุดตัน และกลายเป็นสิวเมื่อมีแบคทีเรียเข้ามาเกี่ยวข้อง คุณควรหลีกเลี่ยงการขัดลอกผิวแบบรุนแรง มันอาจทำให้ปัญหาแย่ลง และเกิดอักเสบมากขึ้นไปอีก ลองปรึกษาแพทย์ว่า ยารักษาสิวอะไรที่ปลอดภัยในช่วงตั้งครรภ์ ถ้าสิวของคุณเป็นมาก แพทย์อาจสั่งยา หรือโลชั่นให้ทาได้
ฝ้า
ผิวคุณอาจมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนสีได้ในระหว่างตั้งครรภ์ ถึงแม้จะจำกัดการเผชิญกับแสงแดด ก็ยังอาจเกิดฝ้า หรือรอยดำบริเวณแก้ม ใต้ดวงตาหรือบริเวณอื่นๆ ได้ ผู้หญิงเอเชียส่วนใหญ่ และผู้ที่ผิวขาวมักมีแนวโน้มที่จะเกิดฝ้าในระหว่างตั้งครรภ์ได้ง่าย เพื่อป้องกันหรือทำให้ฝ้าน้อยลง ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงสุดซึ่งกันได้ทั้งรังสียูวีเอและยูวีบี ทุกครั้งที่ออกแดดพยายามใส่หมวก กางร่ม และใส่แว่นกันแดดเสมอ
© 2021 Osotsapa Company (Limited), All Rights Reserved. Privacy Policy/Terms of Service/CA Transparency Act