ในช่วงเวลาที่เดาใจฟ้าไม่ถูก ไม่รู้ว่าฝนจะตกลงมาตอนไหนเมื่อไรแบบนี้ คุณพ่อคุณแม่หลายคนคงเป็นกังวลหากฝนเกิดตกลงมาพอดีในวันที่ลูกไปโรงเรียน เพราะนอกจากจะเลอะเทอะเฉอะแฉะไปหมดแล้ว ลูกของคุณอาจจะกลายเป็น เด็กป่วยหน้าฝน ขึ้นมาก็ได้ วันนี้ เราจึงมี 10 เทคนิคการดูแลลูกในวันฝนทำพิษ เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กๆ ในบ้านของคุณต้องป่วยในช่วงหน้าฝนมาฝากกันค่ะ
1. เตรียมอุปกรณ์กันฝนให้พร้อมเสมอ
พับร่มและเสื้อกันฝนใส่ติดกระเป๋าลูกเอาไว้ และควรพกติดไว้ในรถของคุณพ่อคุณแม่ด้วย พอฝนตกลงมาจะได้สามารถรับมือได้ทันท่วงที คุณพ่อคุณแม่อาจให้ลูกน้อยสวมหมวกเมื่อออกจากบ้าน เพราะสามารถช่วยทั้งป้องกันฝนปรอยๆและให้ความอบอุ่นแก่ลูกได้
2. อุปกรณ์หลังเปียกฝนให้พร้อมด้วย
หากพลาดพลั้งเปียกฝนไปแล้ว หรืออุปกรณ์กันฝนเกิดเอาไม่อยู่ ลูกน้อยเดินตัวเปียกมาหา การมีเสื้อผ้าสำรองแห้งๆ สะอาดๆ สำหรับเปลี่ยนได้ทันทีก็สำคัญไม่แพ้กัน ที่สำคัญต้องมีผ้าเช็ดตัวสำหรับเช็ดผมและร่างกายให้แห้งด้วย ลูกน้อยจะได้ไม่สูญเสียความร้อนจากความหนาวเย็นเมื่อเปียกฝน
3. เมื่อเปียกฝน ควรเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที
อย่าปล่อยให้ลูกของคุณสวมเสื้อผ้าที่อับชื้น เพราะนอกจากจะเสี่ยงต่ออาการป่วยและทำให้รู้สึกไม่สบายตัวแล้ว ความอับชื้นยังเป็นแหล่งสะสมของเชื้อรา ทำให้เกิดความระคายเคืองที่ผิวหนัง และเป็นที่มาของปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นอับอีกด้วย
4. หยุดอยู่กับบ้านเมื่อไข้หวัดระบาด
หน้าฝนเป็นช่วงที่เด็กๆป่วยได้ง่าย หากในชั้นเรียนของลูกมีเด็กที่ป่วยเป็นไข้หวัดแล้วละก็ เป็นไปได้ว่าลูกของคุณก็จะป่วยด้วยเช่นกัน การให้ลูกหยุดอยู่บ้านสักระยะจึงสามารถป้องกันลูกจากการป่วยได้ และในทางกลับกัน หากลูกของคุณเป็นฝ่ายป่วยขึ้นมา คุณพ่อคุณแม่ก็ควรให้ลูกหยุดเรียนพักอยู่กับบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้ เด็กป่วยหน้าฝน เพิ่มจำนวนขึ้นไปอีก
5. อย่าละเลยเท้าของลูก
ให้ลูกใส่รองเท้าบูทหรือรองเท้าเตะระหว่างเดินทางไปโรงเรียน เมื่อถึงโรงเรียนให้ลูกล้างเท้าแล้วค่อยเปลี่ยนเป็นรองเท้านักเรียน เพื่อป้องกันรองเท้าและถุงเท้าเปียกระหว่างเดินทาง เท้าของลูกน้อยจะได้ไม่อับชื้นระหว่างวัน ซึ่งทำให้เกิดกลิ่นอับ เชื้อรา และโรคเกี่ยวกับเท้าที่พบได้บ่อยในหน้าฝน
6. ดูแลสุขภาพของลูกให้แข็งแรงอยู่เสมอ
เน้นการออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรง เพื่อไม่ให้ลูกต้องเป็น เด็กป่วยหน้าฝน รวมถึงทานผลไม้ที่มีวิตามินซีเยอะๆ เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคหวัด อย่าลืมดูแลให้ลูกได้รับการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ด้วย
7. เตรียมยาให้พร้อม
เตรียมยาพื้นฐานเผื่อเอาไว้เสมอ เช่น ยาลดไข้ ยาแก้แพ้แก้หวัด ทิชชู่ ใส่ไว้ในกระเป๋าของลูกน้อย หรือจะฝากคุณครูไว้ก็ได้ หากลูกของคุณแพ้ยาบางชนิด ก็ควรเขียนรายละเอียดเรื่องการแพ้ยาส่งให้คุณครู หรือให้ลูกน้อยพกติดเอาไว้ด้วย
8. รักษาความอบอุ่นของร่างกาย
ห่มผ้าและใส่ถุงเท้าก่อนนอน ไม่จำเป็นต้องหนามาก แต่ต้องเพียงพอสำหรับการรักษาความอบอุ่นของร่างกาย คุณพ่อคุณแม่อาจหาน้ำมันยูคาลิปตัส น้ำมันหอมระเหย หรือหั่นหอมหัวแดงวางไว้ที่หัวนอน เพื่อช่วยให้ลูกน้อยหายใจสะดวกขึ้น และสร้างความผ่อนคลายระหว่างการนอนหลับ
9. เฝ้าระวังโรคระบาด
คอยระวังโรคที่พบบ่อยในฤดูฝน โดยเฉพาะโรคไข้เลือดออก กำลังลูกน้ำยุงลายอยู่เสมอ หากลูกของคุณมีอาการไข้ที่มีแนวโน้มว่าไม่น่าจะใช้ไข้หวัดธรรมดาแล้วละก็ ควรรีบพาลูกไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจอย่างละเอียด
10. ดูแลสุขภาพของตัวเอง
คุณพ่อคุณแม่เองก็ต้องดูแลสุขภาพของตัวเองด้วย เพราะหากเป็นฝ่ายป่วยขึ้นมาเสียเอง นอกจากจะทำให้ดูแลลูกน้อยของคุณได้ลำบากแล้ว ยังมีโอกาสที่จะพาเอาโรคมาติดลูกได้สูง
© 2021 Osotsapa Company (Limited), All Rights Reserved. Privacy Policy/Terms of Service/CA Transparency Act