ลูกได้หน้าตา-ความสูง มาจากพ่อหรือแม่กันนะ? - พัฒนาการเด็ก 3 ขวบ

ขนาดลูกไม้ยังหล่นไม่ไกลต้น เพราะฉะนั้นลูก ก็ย่อมต้องเหมือนกับคุณพ่อคุณแม่อยู่แล้ว! ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของหน้าตา ความสูง หรือแม้แต่ความฉลาด แต่ว่า แล้วจะเหมือนคุณพ่อหรือคุณแม่มากกว่ากันล่ะ นี่เป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณพ่อ รวมถึงคนรอบข้างเอามานั่งถกเถียงกันได้อย่างไม่มีวันจบสิ้นเลยทีเดียว แต่วันนี้เรามีคำตอบตามหลักการทางวิทยาศาสตร์มาบอกกันแล้วว่า ลูกเหมือนพ่อหรือแม่ มากกว่ากัน

หน้าตา: เหมือนพ่อหรือเหมือนแม่?

ไม่ว่าลูกจะออกมาหน้าตาเป็นยังไง คุณพ่อคุณแม่ก็รักอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเหมือนคุณพ่อมากกว่า หรือว่าเหมือนคุณแม่มากกว่า แต่ถึงอย่างนั้นก็มีบางส่วนที่สามารถแยกได้ล่วงหน้าว่า ลักษณะแบบนี้ ลูกจะได้ไปมาจากใครมากกว่ากัน

สีผิว 

หากคุณพ่อคุณแม่เป็นคนผิวคล้ำทั้งคู่ ก็แน่นอนเลยว่าผิวของลูกจะไม่ออกมาขาวแน่ๆ แต่ถ้าคุณพ่อหรือคุณแม่คนใดคนหนึ่งมีผิวขาว ในขณะที่อีกฝ่ายมีผิวคล้ำ ส่วนใหญ่แล้วลูกที่เกิดออกมาจะมีผิวสีผสมค่ะ

ดวงตา

ตาโตเป็นลักษณะยีนเด่น ส่วนตาเล็กเป็นลักษณะยีนด้อย ดังนั้น ถ้าคุณพ่อหรือคุณแม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีตาโต โอกาสที่ลูกจะออกมาตาโตก็จะมีมากกว่า เรื่องตาสองชั้นก็เหมือนกันค่ะ โดยตาสองชั้นนับเป็นยีนเด่น ดังนั้น ขอแค่คุณพ่อหรือคุณแม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีตาสองชั้น ลูกที่คลอดออกมาก็จะมีโอกาสมีตาสองชั้นมากกว่าเช่นกัน
สีตา

นัยน์ตาสีเข้มหรือสีดำเป็นยีนเด่น ส่วนตาสีอ่อนเป็นยีนด้อย ถ้าคุณพ่อหรือคุณแม่มีนัยน์ตาสีดำหรือสีเข้ม ในขณะที่อีกฝ่ายมีนัยน์ตาสีอ่อนอย่างสีฟ้า ลูกที่เกิดมาจะมีโอกาสมีนัยน์ตาสีเข้มมากกว่าตาสีฟ้าค่ะ

ความสูง: ลูกสูงตามใคร?

พันธุกรรมมีผลต่อความสูงของเด็กถึง 70% เลยนะคะ โดยที่ลูกจะได้พันธุกรรมเรื่องความสูงจากคุณพ่อ 35% และจากคุณแม่อีก 35% เท่ากันเป๊ะ ส่วนที่เหลืออีก 30% จะมาจากปัจจัยเรื่องของสารอาหารที่ลูกได้รับระหว่างการเจริญเติบโตค่ะ

ความฉลาด: ลูกจะฉลาดเหมือนคุณพ่อหรือคุณแม่มากกว่ากันนะ?

งานวิจัยชิ้นล่าสุดของมหาวิทยาลัยกลาสโกวได้ออกมายืนยันแล้วว่า ลูกจะได้รับความฉลาดมาจากคุณแม่มากกว่าค่ะ! โดยความฉลาดของมนุษย์เรา จะเป็นผลมาจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรมถึง 50-60% เลยทีเดียว โดยยีนที่มีผลต่อความฉลาดของมนุษย์จะรวมตัวกันอยู่ที่โครโมโซม X ซึ่งเพศหญิงมีโครโมโซม X อยู่ถึงสองตัว ในขณะที่เพศชายมีโครโมโซม X อยู่เพียงตัวเดียว ทำให้ความฉลาดของแม่ส่งผ่านไปยังลูกน้อยได้มากกว่านั้นเอง

ซึ่งในเรื่องของการสืบทอดสติปัญญา หรือการรับยีนที่มีผลต่อความฉลาดนั้น รศ.ดร.นัยพินิจ คชภักดี ได้อธิบายเอาไว้ว่า ยีนความฉลาด หรือยีนแห่งการเรียนรู้ คือ ศักยภาพความฉลาดที่เด็กแต่ละคนมีติดตัวมาแต่กำเนิด ทำให้มีความใฝ่รู้เป็นลักษณะพื้นฐาน มีความกระตือรือร้น อยากรู้อยากเห็น อยากเรียนรู้สิ่งต่างๆ ตลอดเวลา และช่างสังเกตเรื่องราวรอบตัวอยู่เสมอ ซึ่งเป็นผลส่วนหนึ่งมาจากการที่คุณพ่อคุณแม่เป็นคนเก่งอยู่แล้ว ทำให้มีสายพันธุ์ที่ดี ลูกที่เกิดมาเลยมีศักยภาพที่ดีติดตัวตามไปด้วยนั่นเอง

นอกจากนี้ โฮวาร์ด การ์ดเนอร์ จากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ยังบอกอีกด้วยว่า ความฉลาดของเด็กๆ นั้น นอกจากทักษะในการเรียนรู้ด้านต่างๆ แล้ว ยังหมายรวมถึงความสามารถทางด้านดนตรี ศิลปะ หรือการมีวาทศิลป์พูดจูงใจคนอีกด้วย ซึ่งเรื่องเหล่านี้ ลูกก็สามารถรับมาจากคุณพ่อคุณแม่ได้เช่นกันค่ะ ตัวอย่างเช่น ครอบครัวที่มีคุณพ่อเป็นนักดนตรีที่เล่นดนตรีได้เก่งมาก ก็มีแนวโน้มว่าลูกที่เกิดมา จะมีความสนใจในเรื่องดนตรี หรือมีความสามารถด้านดนตรีที่โดดเด่นเหมือนกัน

เป็นยังไงคะ รู้กันแล้วใช่มั้ยว่า ลูกเหมือนใครในด้านไหนบ้าง แต่ไม่ว่าลูกจะได้รับลักษณะอะไรมาจากคุณพ่อหรือคุณแม่ ยีนก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น และอย่าลืมว่า สภาพแวดล้อมและการเลี้ยงดูก็มีผลต่อลูกมากเช่นกัน