4 โรคที่มาพร้อมหน้าฝนต้องป้องกัน - ทารกแรกเกิด

ช่วงหน้าฝน เป็นอีกช่วงที่เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ง่าย เป็นช่วงที่ต้องระวังโรคภัยต่างๆ มากเป็นพิเศษ เพราะเชื้อโรคหลายชนิดแพร่ระบาดได้ง่าย และทำให้เด็กๆ ติดเชื้อได้อย่างรวดเร็ว

1. ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ เกิดจากเชื้อไวรัส โดยเฉพาะในเด็กเล็กๆต้องระวังการถูกฝนให้มาก

อาการเริ่มจาก มีไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ เป็นอยู่ 2 - 3 วัน อาการก็จะดีขึ้นได้เอง แต่หากมีอาการไอมากขึ้น หรือมีไข้สูงนานเกิน 2 วัน ควรไปพบแพทย์

2. เชื้อรา กลาก เกลื้อน เกิดจากน้ำฝนที่ขังตามพื้นถนนเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค หนูๆ ที่ชอบถอดรองเท้าเดินเท้าเปล่า 

    - เกลื้อน พบได้บ่อยในเด็ก โดยเฉพาะเด็กที่ขี้ร้อนหรือเจ้าเนื้อ ผื่นจะเป็นวงมีขุยละเอียด สีขาว หรือสีแดงหรือสีขี้เถ้า  เริ่มจากจุดเล็กๆ ถึงเป็นวงใหญ่ พบได้ตามลำตัว แขน ขา หน้า หรือคอ มักไม่ค่อยคัน

การรักษา ระวังอย่าให้เปียกชื้น หลังการอาบน้ำทำความสะอาด ควรเช็ดให้ แห้ง ทายาเช้า เย็น นานประมาณ3-4 สัปดาห์

3. โรคไข้เลือดออก ซึ่งมียุงลายเป็นพาหะ เป็นโรคที่มักจะแพร่ระบาดในช่วงหน้าฝนมากที่สุด เกิดจากฝนตกน้ำขังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ควรกำจัดลูกน้ำยุงลายในบ้านให้หมด

อาการเริ่มต้น คือ มีไข้สูงมาก ไข้ไม่ยอมลด เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย เซื่องซึม เด็กๆ จะมีไข้สูงอย่างเฉียบพลับ อาจมีจุดเลือดออกเล็กๆ กระจายตามแขน ขา ลำตัว

วิธีป้องกัน คุณแม่ควรให้น้องจิบน้ำเกลือแร่บ่อยๆ และติดตามดูอาการกับคุณหมออย่างใกล้ชิดนะคะ อย่าลืมกำจัดลูกน้ำยุงลายในบ้านให้หมด และอย่าลืมป้องจุดยากันยุงหรือกางมุ้งนอนให้เด็กๆ ด้วยนะคะ

4. โรคมือเท้าปาก เกิดจากเชื้อเอนเทอโรไวรัส ที่ทำให้ระบาดมากในช่วงหน้าฝนเพราะอากาศชื้น พบบ่อยในเด็กทารกและเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี โดยเชื้อจะมากับมือหรือของเล่นที่เปื้อนน้ำลาย น้ำมูก น้ำจากตุ่มแผล การไอและจามรดกัน

วิธีสังเกตอาการ ส่วนใหญ่เด็กๆจะเริ่มมีอาการป่วย 3 -6 วันหลังได้รับเชื้อ โดยเริ่มมีไข้ หลังจากนั้นจะเริ่มมีตุ่มแดงที่ลิ้น เหงือก กระพุ้งแก้มฝ่ามือ นิ้วมือ และฝ่าเท้า บางรายที่อาการรุนแรงจะมีผื่นที่ขาและก้นได้ด้วย ซึ่งกว่าผื่นจะหายประมาณ 7-10 วัน

การป้องกันสุขภาพลูกน้อยช่วงหน้าฝน

• ช่วงที่ระบาดส่วนใหญ่จะเป็นช่วงหน้าฝน หรือช่วงเปลี่ยนฤดูที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เด็กๆ ควรหลีกเลี่ยงการไปห้างสรรพสินค้า หรือที่ชุมชน
• หากลูกตากฝนหรือถูกละอองฝน ให้เด็กๆ รีบถอดเสื้อผ้า และไปอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย
• กินร้อน ช้อนกลาง และให้ลูกล้างมือบ่อยๆจะช่วยลดการเกิดโรคได้ (ล้างมือก่อนและหลังรับประทานอาหาร หลังเข้าห้องน้ำ)
• ถ้าพบเด็กป่วย ควรให้หยุดเรียนอย่างน้อย 5 วัน จนกว่าจะหายดี เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อแก่เด็กอื่นๆ
• ผู้ใหญ่ที่ดูแลเด็กควรหมั่นล้างมือบ่อยๆ เพราะโรคสามารถติดต่อทางการรับประทานอาหาร และติดต่อโดยตรงจากการสัมผัสน้ำมูก น้ำลาย และอุจจาระของผู้ป่วย
• ทำความสะอาดของเล่น ห้องน้ำ อุปกรณ์เครื่องใช้ของเด็ก เปิดห้องให้อากาศถ่ายเทและแสงแดดส่องถึง ให้เด็กๆ ล้างมือบ่อยๆ งดใช้แก้วน้ำและสิ่งของร่วมกันจะช่วยลดการระบาดของโรคได้