ทำอย่างไร? เมื่อสงสัยว่าลูกได้รับสารพิษ - บทความโดยแพทย์

การได้รับสารแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย ส่วนใหญ่เกิดจากการรับประทาน อาจเกิดโดยไม่ตั้งใจ เช่น ในเด็กที่ยังอ่านหนังสือไม่ออก เมื่อได้รับสารแปลกปลอมจะมีการตีบตันของทางเดินอาหาร ความรุนแรงขึ้นกับชนิดของกรดด่าง ปริมาณ ความเข้มข้นและระยะเวลาที่สัมผัส ในเด็กส่วนใหญ่จะกินโดยไม่ตั้งใจ จะได้รับสารในปริมาณน้อยกว่า ส่วนผู้ใหญ่จะกินจากการพยายามฆ่าตัวตาย ทำให้เกิดความรุนแรงมากกว่า อาการพิษจะขึ้นอยู่กับชนิดของสารพิษที่ได้รับ เช่น ถ้าเด็กกินเข้าไป จะมีผลกับระบบทางเดินอาหารและทางเดินหายใจ ถ้าสัมผัสเข้าไปจะเกิดอาการที่ผิวหนัง หากกระเด็นเข้าตาจะทำให้เกิดการระคายเคืองตา เมื่อกินสารกรดด่าง จะเกิดอันตรายต่ออวัยวะต่างๆได้ เช่น เจ็บบริเวณช่องปาก มีน้ำลายไหล ทานข้าวได้น้อย บาดเจ็บบริเวณกล่องเสียง หายใจดัง เสียงแหบ

ความเชื่อที่ว่าถ้ากินกรดให้ทานด่าง หรือกินด่างให้ทานกรดเพื่อให้เป็นกลาง หรือถ้าพบผู้ที่กินสารกรดด่างให้รีบทำให้อาเจียนนั้นเป็นความเชื่อที่ผิด! ตามจริงแล้ว ไม่ควรทำให้ผู้ป่วยอาเจียนเนื่องจากทำให้ด่างหรือกรดย้อนกลับมาจะทำให้เนื้อเยื่อทางเดินอาหารบาดเจ็บมากขึ้น การรักษาในผู้ป่วยที่ทางเดินอาหารทะลุจะได้รับการรักษาโดยการผ่าตัด ในผู้ที่ทางเดินอาหารไม่ทะลุ การส่องกล้องทางเดินอาหาร (endoscopy) จะช่วยประเมินอาการบาดเจ็บทางช่องทางเดินอาหารและยังมีประโยชน์ในการวินิจฉัยเคสผู้ป่วยเด็กซึ่งไม่สามารถให้ประวัติได้ชัดเจน ผู้ป่วยที่มีความรู้สติเปลี่ยนไป

อย่างไรก็ตาม การส่องกล้องก็มีข้อห้ามในผู้ป่วยที่มีสัญญาณชีพที่ไม่ดี ความดันต่ำ มีอาการหายใจลำบาก ภาวะทางเดินอาหารตีบอาจเกิดได้ภายใน 2-4 สัปดาห์ ควรรีบนำส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด และนำวัตถุที่สงสัยไปด้วย เพื่อแพทย์จะได้ทำการรักษาได้อย่างถูกต้อง