ประสาทสัมผัสการรับกลิ่นของลูก สำคัญไม่แพ้ประสาทสัมผัสด้านอื่นๆ ในช่วงแรกเกิด ลูกจะมีประสาทสัมผัสรับกลิ่นที่ดีมาก สังเกตได้ว่าลูกสามารถจดจำกลิ่นของแม่ตัวเองได้หลังคลอด โดยถ้าเป็นคนอื่นอุ้มอาจจะร้องงอแง แต่ถ้าเป็นแม่ของตัวเองก็จะหยุดร้อง และสงบลงได้เนื่องจากประสาทสัมผัสการรับกลิ่นของลูกแยกแยะได้ว่านี่คือกลิ่นของแม่ตัวเอง หรือกลิ่นที่คุ้นเคย
กระตุ้นประสาทการรับกลิ่น ส่งเสริมความฉลาดให้ลูก
การกระตุ้นพัฒนาการการรับกลิ่นของลูก สามารถทำได้ตั้งแต่แม่กำลังตั้งครรภ์ ซึ่งส่งผลต่อพัฒนาการทางสมอง หรือความฉลาดของลูกน้อยได้ โดยเมื่อลูกคลอดออกมาและมีประสาทการรับกลิ่นที่ดีจะช่วยให้ลูกปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ง่าย และส่งผลกับการเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัวของลูกด้วย
o กระตุ้นด้วยกลิ่นหอมจากดอกไม้
ช่วงตั้งครรภ์ คุณแม่ลองหาดอกไม้กลิ่นหอมที่ชื่นชอบ จัดใส่แจกันวางไว้ใกล้ตัว เช่น บนโต๊ะทำงาน ในห้องนอน นอกจากจะช่วยให้แม่ได้ผ่อนคลายแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นประสาทการรับกลิ่นของลูกผ่านทางแม่ด้วย แต่ไม่ควรเลือกดอกไม้ที่มีกลิ่นแรงเกินไป
o กระตุ้นด้วยกลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหย
ใช้น้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่ช่วยให้สดชื่นกับแม่ตั้งครรภ์ เช่น กลิ่นส้ม กลิ่นมะนาว จุดหรือหยดวางไว้ในบ้าน แต่ต้องระวัง ควรหลีกเลี่ยงกลิ่นน้ำมันหอมระเหยบางกลิ่นที่อาจเป็นอันตรายกับลูกในครรภ์ เช่น กลิ่นกุหลาบ กลิ่นคาโมมายด์ กลิ่นโรสแมรี่ กลิ่นเปปเปอร์มินท์
o กระตุ้นด้วยกลิ่นละมุนจากแม่
กลิ่นตัวของแม่เป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่ลูกๆ สามารถได้กลิ่นทุกๆ วัน ผลิตภัณฑ์ที่แม่ใช้กับร่างกายหรือผิวพรรณ ไม่ว่าจะเป็น สบู่อาบน้ำ โลชั่น แป้ง ฯลฯ จึงควรเลือกที่มีกลิ่นหอมละมุน เช่น ผลิตภัณฑ์เบบี้มายด์ อัลตรามายด์ ไวท์ ซากุระ ที่มีเอสเซ้นท์ซากุระขาวเข้มข้นผสมวิตามินอี ช่วยดูแลผิวให้เนียนนุ่ม รักษาสมดุลน้ำหล่อเลี้ยงผิวให้ผิวชุ่มชื่น และที่สำคัญคือกลิ่นหอมละมุนอ่อนๆ จากดอกซากุระขาวทำให้ลูกได้รับกลิ่นที่สดชื่น ผ่อนคลาย และกระตุ้นประสาทสัมผัสการรับกลิ่นของลูกได้อย่างดี
กลิ่นหอมละมุนที่แม่ได้รับ มีส่วนช่วยกระตุ้นพัฒนาการทางสมองของลูกๆ ได้ เพราะกลิ่นหอมจะทำให้ลูกน้อยรู้สึกผ่อนคลาย สดชื่น มีสมาธิ ทำให้ลูกพร้อมเรียนรู้ พร้อมเล่นสนุก เพื่อพัฒนาไปสู่ความฉลาดได้
© 2021 Osotsapa Company (Limited), All Rights Reserved. Privacy Policy/Terms of Service/CA Transparency Act