สิ่งที่ต้องเตรียมและต้องสอนก่อน ลูกพลัดหลง! - พัฒนาการเด็ก 3 ขวบ

ช่วงเทศกาลต่างๆ ที่ไม่ว่าใครต่างก็อยากพาลูกๆ พาครอบครัวออกไปเที่ยวอย่างช่วงวันปีใหม่ วันเด็ก หรือแม้แต่การไปเที่ยวในสถานที่ที่มีคนมากมายช่วงวันหยุดปิดเทอมนั้น เป็นช่วงที่เกิดเหตุการณ์พลัดหลงกับลูกได้ง่ายที่สุด โดยเฉพาะหากคุณพ่อคุณแม่ไม่ระมัดระวังมากพอ และหาก ลูกพลัดหลง ขึ้นมาจริงๆ การเตรียมการที่ดี จะช่วยให้ทั้งคุณพ่อคุณแม่และลูกหากันจนเจอเร็วขึ้นได้ สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรจะสอนลูกเผื่อเอาไว้ในกรณีที่พลัดหลงกันก็คือ

• สอนให้ลูก ตั้งสติ การมองหาคนช่วยเป็นเรื่องที่สำคัญมาก อย่างน้อยลูกของคุณต้องรู้ว่า ควรไปขอความช่วยเหลือจากใคร จะเลือกมั่วไม่ได้เพราะอาจเจอคนไม่ดีเข้า

• สอนให้ลูกขอความช่วยเหลือจากคนขายของในร้าน ตำรวจ ผู้ใหญ่ที่มาพร้อมเด็ก หรือครอบครัวอื่นที่มาพร้อมลูกๆ เพราะคนกลุ่มนี้จะมีความน่าเชื่อถือและพร้อมให้ความช่วยเหลือมากกว่าคนกลุ่มอื่น

• ให้ลูกจดจำข้อมูลสำคัญสำหรับช่วยค้นหา ได้แก่ ชื่อของตัวเอง เบอร์โทรศัพท์ของคุณพ่อคุณแม่ ชื่อจริงนามสกุลจริงของคุณพ่อคุณแม่ รวมถึงหมายเลขสำคัญเช่น 191 หรือ 1599 (ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจแห่งชาติ) เป็นต้น

• สำหรับเด็กเล็กที่ยังจำข้อมูลไม่ได้ หรือจำได้ไม่แม่น ให้คุณพ่อคุณแม่เขียนข้อมูลสำหรับติดต่อให้ลูกพกติดตัวไว้ และบอกลูกว่า ถ้าพลัดหลงกับพ่อแม่ ให้เอากระดาษนี้ยื่นให้คนที่จะมาช่วย แล้วพ่อกับแม่จะรีบไปรับ อย่าเดินเตร่ไปทั่ว หรือเดินหาคุณพ่อกับคุณแม่เอง เพราะจะยิ่งทำให้หาไม่เจอ

• สำหรับลูกวัยซนที่ไม่อยู่นิ่ง คุณพ่อคุณแม่ควรจูงมือลูกเอาไว้เสมอ หรือใช้อุปกรณ์ช่วยอย่างสายจูงสำหรับเด็ก โดยเฉพาะในสถานที่ที่คนพลุกพล่านและง่ายต่อการพลัดหลง เช่น ห้างสรรพสินค้า สวนสนุก

• สอนลูกว่าอย่าหลงเชื่อและไปกับคนแปลกหน้า หรือคนที่หลอกว่าจะพาไปหาคุณพ่อคุณแม่

• ควรสอนให้ลูกบอกคุณพ่อคุณแม่ก่อนที่จะไปที่ไหน หรือต้องการอะไร เช่น หิวข้าว ปวดปัสสาวะ ห้ามเดินไปเองโดยไม่บอก

• พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและวิธีแก้ไขปัญหา หรือสร้างสถานการณ์จำลองกับลูก เพื่อดูความพร้อมของลูก และช่วยให้ลูกรับมือกับสถานการณ์จริงได้ดีขึ้น เช่น ถ้าหลงกับคุณแม่ควรทำอย่างไร หรือให้ลูกลองท่องเบอร์โทรของคุณพ่อให้ฟัง เป็นต้น

• จดจำรายละเอียดของลูก เช่น ลักษณะเฉพาะของลูก เสื้อผ้าที่สวมใส่ จุดสุดท้ายที่อยู่กับลูก เพื่อช่วยให้เจ้าหน้าที่ติดตามหาลูกของคุณได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ไม่มีคุณพ่อคุณแม่คนไหนอยากพลัดหลงกับลูก วิธีที่ดีที่สุดคือ การดูแลลูกอย่างใกล้ชิด และไม่ประมาท โดยเฉพาะเวลาไปต่างถิ่น หรือช่วงงานเทศกาลต่างๆ ที่มีคนพลุกพล่าน ที่ทำให้พลัดหลงกันได้ง่าย นอกจากนี้ คุณพ่อคุณแม่ควรเก็บและปรับข้อมูลของลูกให้ทันสมัยอยู่เสมอ เช่นสถานที่ ภาพถ่ายปัจจุบัน ประวัติทางการแพทย์ รวมถึงข้อมูลการพิมพ์รายนิ้วมือ และดีเอ็นเอ เพื่อประโยชน์ในการตามหาและยืนยันตัวบุคคล