ภาวะสำลักสิ่งแปลกปลอมทางระบบทางเดินหายใจ ถึงแม้เกิดได้ไม่บ่อย แต่เป็นเหตุการณ์ฉุกเฉิน ที่หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง และทันท่วงที อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน ผลข้างเคียง หรือเกิดพยาธิสภาพตามมา รวมถึงอาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว
เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เช่น ลูกๆ เล่นกันแล้วเผลอกลืนเมล็ดผลไม้ เช่น น้อยหน่า หรือถั่วเม็ดเล็กๆ เมื่อสิ่งแปลกปลอมไปติดในทางเดินหายใจ ผู้ป่วยจะมีอาการสำลัก ไออย่างรุนแรง และหายใจลำบาก ความรุนแรนของอาการจะขึ้นอยู่กันขนาด และชนิดของสิ่งแปลกปลอม รวมถึงตำแหน่งที่ติด และช่วงอายุของผู้ป่วยด้วย ซึ่งหากในเด็กเล็ก ทางเดินหายใจจะยิ่งมีขนาดเล็ก การอุดกั้นแม้เพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงจนเสียชีวิตได้
หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นคุณแม่ควรตั้งสติ ไม่ควรใช้มือล้วงอาหารออกจากลำคอ กรณีที่สำลักแล้ว หายใจไม่ออก ริมฝีปากเขียว ถือเป็นภาวะฉุกเฉิน ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตได้ภายในเวลาไม่กี่นาที แนะนำให้ใช้วิธีช่วยเหลือแบบ Heimlich โดยให้ลูกนั่งหรือยืนโน้มตัวไปทางด้านหน้าเล็กน้อย คุณแม่ยืนทางด้านหลัง ใช้แขนสอดสองข้างโอบลำตัว กำมือวางไว้ที่ใต้ลิ้นปี่ ดันมือลงตรงตำแหน่งลิ้นปีอย่างรวดเร็วเพื่อให้เกิดแรงดันในช่องท้องดันให้สิ่งแปลกปลอมหลุดออกจากกล่องเสียง ในเด็กเล็กที่อายุน้อยกว่า 1 ปี อาจใช้วิธีตบหลังแทนได้ หลังให้ความช่วยเหลือควรรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล
ขอบคุณบทความจาก
พญ. ฐิตาภรณ์ วรรณประเสริฐ
เเพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนังเด็ก โรงพยาบาลผิวหนังอโศก
© 2021 Osotsapa Company (Limited), All Rights Reserved. Privacy Policy/Terms of Service/CA Transparency Act