หลังช่วงเปิดเทอม เด็กๆ ก็กลับไปโรงเรียนอีกครั้ง แต่บางครั้งไปเรียนได้ไม่กี่วัน เด็กๆ กลับมาบ้านก็มีน้ำมูก ไอ โรคติดต่อ ที่พบได้ในโรงเรียนเกิดจากหลายๆ สาเหตุ เช่น
1.โรคติดเชื้อที่ผิวหนัง
• โรคอีสุกอีใส พบบ่อยในเด็กอายุ 2-8 ปี เด็กจะมีไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย มีผื่นแดงราบ ต่อมาจะกลายเป็นตุ่มนูน มีน้ำใสๆ และคัน ต่อมาจะกลายเป็นตุ่มหนอง และแห้งตกสะเก็ด
• โรคมือเท้าปาก ส่วนใหญ่พบบ่อยในเด็กเล็กอายุน้อยกว่า 5 ปี อาการที่พบ มีไข้ ไอ น้ำมูก มีแผลในปาก จะมีผื่นแดงหรือตุ่มน้ำใส บริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า จะมีแผลในปากคล้ายแผลร้อนใน
2.การติดเชื้อทางระบบทางเดินอาหาร
• อุจจาระร่วง เกิดจากการรับประทานอาหาร เครื่องดื่มไม่สะอาด และหยิบจับภาชนะที่มีเชื้อโรคปะปนอยู่ เด็กๆจะมีอาการถ่ายอุจจาระเหลวมากกว่าวันละ 2 ครั้ง หรือถ่ายอุจจาระเป็นน้ำหรือมูก
• โรคโรต้าไวรัส เกิดจากการสัมผัสสิ่งปนเปื้อนที่อยู่ตามโต๊ะ เก้าอี้ พื้น หรือของเล่นต่างๆ เมื่อได้รับเชื้อทำให้เกิดอาการอาเจียน 2-3 วันแรก ถ่ายเหลว ถ่ายบ่อย อุจจาระพุ่งประมาณ 3-8 วัน อาจพบอาการไข้ ไอร่วมด้วย
• โรคโนโรไวรัส ไวรัสกลุ่มนี้ทำให้เกิดอาการท้องเสีย มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง อาจมีอาการปวดเมื่อยตัว และอาจมีไข้ต่ำๆ ได้ เชื้อติดต่อได้ง่าย จากการสัมผัสเชื้อจากสารคัดหลั่ง น้ำลาย น้ำมูก เสมหะ ติดไปตามมือ
3.โรคติดเชื้อที่ตา
• ตาแดง ติดต่อได้จากการสัมผัสหรือใช้ของร่วมกัน ส่วนใหญ่เด็กๆ จะมีอาการตาแดง เคืองตา และน้ำตาไหลมาก
4.โรคติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจ พบระบาดในกลุ่มเด็กเล็กได้บ่อยๆ คือ
• ไข้หวัด และไข้หวัดใหญ่ ซึ่งถ้าเด็กๆ พักผ่อนไม่เพียงพอด้วย ภูมิต้านทานของร่างกายจะยิ่งต่ำลง เชื้อแพร่กระจายได้ง่าย และอาจทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนเป็นเป็นปอดบวมได้
การป้องกันดูแลลูกน้อย
การฉีดวัคซีนป้องกัน จะป้องกันโรค ช่วยลดความรุนแรงของการป่วย ร่นระยะเวลาการป่วยให้น้อยลง หลังกลับจากโรงเรียน แนะนำให้อาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย ล้างมือบ่อยๆ และทุกครั้งก่อนและหลังรับประทานอาหาร นอนพักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยให้ลูกมีสุขภาพแข็งแรง ไม่ป่วยหรือไม่สบายง่ายเวลาไปโรงเรียนค่ะ
ขอบคุณบทความจาก
พญ. ฐิตาภรณ์ วรรณประเสริฐ
เเพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนังเด็ก โรงพยาบาลผิวหนังอโศก
© 2021 Osotsapa Company (Limited), All Rights Reserved. Privacy Policy/Terms of Service/CA Transparency Act